กัญชาคือสไนเปอร์ฆ่ามะเร็งได้ตรงจุดกว่าคีโม
ปัจจุบันในต่างประเทศมีการศึกษาในเรื่องกัญชากับมะเร็งมานานนับสิบๆปี โดยปัจจุบันเราอธิบายในเชิงการแพทย์ได้แล้ว จากการศึกษาวิจัย จนหาคำตอบได้ว่า กัญชารักษามะเร็งปอดได้อย่างไร ดังนี้
1. กัญชา ทำให้โปรแกรมอัตโนมัติของร่างกาย ที่ทำให้เซลล์แปลกปลอมมีการตายหรือเสื่อม ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Apoptosis หรือ Programmed cell death)
อธิบายให้เข้าใจง่าย ก็คือว่า เซลล์ในร่างกายมีอายุขัยของมัน เมื่อถึงเวลาตาย ก็ต้องตาย และให้เซลล์ใหม่เกิดขึ้นมาทดแทน แต่ถ้าโปรแกรมนี้ไม่ทำงาน ก็จะมีเซลล์แก่หรือเสื่อมคงอยู่ในร่างกาย โดยเฉพาะเซลล์มะเร็ง ก็จะทำให้เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นในร่างกายกัญชาไปทำให้โปรแกรมนี้ ช่วยกำจัดเซลล์มะเร็งได้อย่างมีประสิทธิภาพ เซลล์มะเร็งฝ่อลงได้
2. กัญชา ยับยั้งเซลล์มะเร็งปอด ไม่ให้มีการลามไปยังอวัยวะอื่นๆในร่างกาย (Metastasis)
กัญชาคือสไนเปอร์ฆ่ามะเร็งได้ตรงจุดกว่าคีโม..
ปกติมะเร็งจะมีการลามไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายได้ เช่น มะเร็งปอด มักจะลามไปยังสมอง ทำให้มะเร็งมีความรุนแรงมากขึ้น การรักษายุ่งยากขึ้น
กัญชาไปทำให้กระบวนการลุกลามไปยังอวัยวะอื่นๆหยุดทำงานผ่านหลายๆกลไกได้
-กัญชา ยับยั้งการสร้างเส้นเลือดไปหล่อเลี้ยงเซลล์มะเร็ง (Angiogenesis)
เซลล์มะเร็ง ก็เหมือนเซลล์อื่นๆในร่างกายที่ต้องการสารอาหารไปทำให้พวกมันเติบโตขึ้น ซึ่งสารอาหารก็ต้องผ่านมาทางเส้นเลือด ดังนั้น มะเร็งจึงมีกลไกการสร้างเส้นเลือดขึ้นมาเพื่อนำอาหารไปหล่อเลี้ยงนั้นเอง
ซึ่งกัญชา ทำให้กระบวนการสร้างเส้นเลือดหยุดชะงักลงได้ ถือเป็นการตัดท่อน้ำเลี้ยงของมะเร็ง เพื่อไม่ให้ลุกลามไปยังส่วนอื่นๆของร่างกายได้นั่นเอง
-กัญชา ยับยั้งไม่ให้เซลล์มะเร็งมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้น (Preventing cancer proliferation)
เซลล์มะเร็งปกติแล้ว ก็จะมีการโตเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามระยะของการเป็นมะเร็ง ซึ่งการเพิ่มจำนวนและปริมาณ ก็จะนำไปสู่ความรุนแรงที่มากขึ้น และรักษายากขึ้น
จากการศึกษาวิจัยพบว่า กัญชาสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนมะเร็งได้ผ่านกลไกต่างๆช่วยกัน
ฉะนั้น กัญชากับมะเร็งปอด จึงพบว่า มีกลไกเข้าไปทำลายเซลล์ได้อย่างครอบคลุม คือ ทั้งไม่ให้เติบโต ทั้งไม่ให้ลุกลาม ทั้งตัดเสบียงอาหาร และ กระตุ้นให้ฆ่าตัวตายเอง
ปล. ในยุคที่ประชาชนเข้าถึงข้อมูลมากขึ้น ประชาชนมีสิทธิ์ที่จะเลือกการรักษาได้เอง โดยบุคคลากรทางการแพทย์ควรมีหน้าที่นำเสนอทางเลือก ถ้าคนไข้จะใช้กัญชา ไม่ใช่บังคับให้เลือกรักษาแบบปัจจุบันนี้
กัญชา ไม่ทำลายเซลล์ปกติของร่างกายนะครับ ทำลายแต่เซลล์มะเร็ง ผิดกับยาเคมี หรือ การฉายแสง ที่ทำลายทั้งเซลล์มะเร็ง และ เซลล์ปกติ ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพ ก็คือ
กัญชา คือ มือปืนสไนเปอร์ ที่ยิงเฉพาะผู้ร้าย แต่กับยาเคมีหรือฉายแสง คือ ระเบิดนิวเคลียร์ ตายทั้งชาวบ้านตายทั้งผู้ร้าย (บางทีผู้ร้ายแค่คนเดียว แต่ชาวบ้านตายทั้งหมู่บ้าน)
ที่มา : น้ํามันกัญชาสกัhttp://xn--l3c.com/
ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันรายงานเกี่ยวกับผลประโยชน์จากการใช้ยากัญชาทางการแพทย์
อ้างอิงจากการสำรวจใหม่จากประเทศเยอรมันนี ผู้ป่วยโรคพาร์กินสันมากกว่า 8 % ใช้ผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์ (CBMPs) และผู้ป่วยกว่า 54 % เหล่านั้นมีประสบการณ์การใช้ประโยชน์จากกัญชา โดยการค้นพบครั้งนี้ได้ถูกเผยแพร่บนนิตยสารของโรคพาร์กินสันแล้ว
โรคพาร์กินสันและ CBMP’s
การสำรวจดำเนินการโดยกลุ่มสมาชิกพาร์กินสันของเยอรมันนีทำการประเมินการตอบสนองของผู้ป่วยต่อยากัญชาทางการแพทย์และผู้ป่วยที่มีประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์กัญชามาก่อนหน้านี้แล้ว โดยการสำรวจมากกว่า 1300 คน ให้ผลว่า กลุ่มผู้ป่วยโรคพาร์กินสันให้ความสนใจในการใช้ยากัญชาทางการแพทย์สูงมาก แต่ความรู้เกี่ยวกับความแตกต่างของการใช้ผลิตภัณฑ์นั้นน้อย ผู้ตอบแบบสำรวจกว่า 51 % มีความรู้เกี่ยวกับกฎหมายการใช้กัญชาทางการแพทย์ของประเทศเยอรมันนีและ 28 % มีความรู้ด้านวิธีการใช้ต่างๆ (การสูดดมกับการใช้ทางช่องปาก) แต่มีเพียง 9 % เท่านั้นที่รู้ความแตกต่างระหว่าง THC และ CBD ในกัญชา
นายแพทย์ คาร์สเตน บูห์มันน์ ภาคประสาทวิทยา ศูนย์การแพทย์มหาวิทยาลัยฮัมบูร์ก – เอพเพนดอร์ฟ กล่าวว่า “กัญชาทางการแพทย์ได้รับการยอมรับทางกฎหมายในประเทศเยอรมันนีในปี 2017 ซึ่งเริ่มต้นจากการใช้รักษาอาการต่อต้านการบำบัด ในผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงที่ไม่สามารถวินิจฉัยได้และไม่มีข้อมูลตามหลักฐานทางการแพทย์
“ผู้ป่วยพาร์กินสันที่อยู่ในเกณฑ์เหล่านี้มีสิทธิ์ได้รับกัญชาทางการแพทย์ แต่มีข้อมูลเพียงเล็กน้อยเกี่ยวกับชนิดของแคนนาบินอยด์และวิธีการใช้งานที่เฉพาะเจาะจงอาการสำหรับผู้ป่วยพาร์กินสัน เรายังขาดข้อมูลเกี่ยวกับขอบเขตการใช้กัญชาทางการแพทย์ของกลุ่มผู้ป่วยประเภทนี้และยังไม่รู้ผลลัพธ์ของการใช้”
ทำความเข้าใจกับประโยชน์ที่ได้รับ
ผลสำรวจเผยว่าผู้ใช้มากกว่า 40 % รายงานว่ากัญชาทางการแพทย์ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดและอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อได้ ผู้ใช้มากกว่า 20 % รายงานอีกว่าลดอาการ Akinesia (อาการหยุดเดินหรือการเคลื่อนไหวทันที สั่งการไม่ได้), อาการสั่น, วิตกจริต, ภาวะซึมเศร้าและอาการขาอยู่ไม่สุข โดยผู้ป่วยรายงานว่าผลิตภัณฑ์กับชาที่ใช้สำหรับการสูดดมมีส่วนผสมของ THC ที่มีประสิทธิภาพในการช่วยเรื่องภาวะ Akinesia มากกว่าผลิตภัณฑ์ประเภทรับประทานที่มีส่วนผสมของ CBD
ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าผู้ป่วยส่วนใหญ่ที่ใช้กัญชาเริ่มเป็นผู้ที่มีอายุน้อยลงเรื่อยๆ อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่และมีความรู้เรื่องมุมมองของการใช้กัญชาทางการแพทย์ และ 65% ของผู้ที่ไม่ได้ใช้กัญชานั้นความสนใจในเรื่องของกัญชาทางการแพทย์แต่ขาดความรู้และกลัวผลข้างเคียงจึงทำให้ไม่กล้าที่จะลองใช้
“จากข้อมูลที่เราพบ เรายืนยันได้ว่าผู้ป่วยพาร์กินสันมีความสนใจอย่างมากในการรักษาโดยใช้กัญชาทางการแพทย์แต่เพียงแค่เพียงเขาขาดความรู้เกี่ยวกับการใช้งาน โดยเฉพาะเรื่องของความแตกต่างของแคนนาบินอยด์สองตัว THC และ CBD” นายแพทย์ คาร์สเตน บูห์มันน์ กล่าวเพิ่มเติม “แพทย์ควรพิจารณามุมมองเหล่านี้ด้วยในการให้คำปรึกษาแก่ผู้ป่วยเรื่องการรักษาโดยใช้กัญชาทางการแพทย์” ข้อมูลที่รายงานออกมานี้อาจจะช่วยให้แพทย์หลายๆคนตัดสินใจว่าผู้ป่วยประเภท อาการแบบไหนจะสามารถได้รับประโยชน์จากการใช้กัญชาทางการแพทย์นี้ และแคนนาบินอยด์แบบไหนที่เหมาะสมกับผู้ป่วยเหล่านั้น
ที่มา : Parkinson’s Disease patients report benefits of using medical cannabis (healtheuropa.eu)